โดยทั่วไปแล้ว การตรวจสภาพรถยนต์ประกอบด้วยหลายองค์ประกอบ เช่น กระบอกสูบ เครื่องยนต์ หม้อน้ำ ระบบไฟฟ้า ระบบเชื้อเพลิง และผ้าเบรกเป็นต้น
ไม่เพียงแต่การต้องตรวจสภาพเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ควรทำการตรวจสภาพเป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการใช้งานในระยะยาว คุณสามารถนัดหมายกับช่างที่ไว้วางใจ เพื่อให้ได้การตรวจสภาพที่ถูกต้องและครบถ้วน
การตรวจสภาพรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณมั่นใจในการขับขี่ แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์โดยไม่จำเป็น และยังช่วย เพิ่มราคาขายให้กับผู้ที่ต้องการจะขายได้อีกด้วย การมีปัญหาร้ายแรงในการใช้งานอาจส่งผลกระทบถึงราคาขายในภายหลังได้
แล้วการตรวจสภาพรถ ใช้อะไรบ้าง การตรวจสภาพรถใช้เพียงแค่สมุดทะเบียนรถ หรืออีกวิธีเราสามารถใช้หลากหลายวิธีและอุปกรณ์ที่มีอยู่ในตลาดเพื่อช่วยในการตรวจสภาพของรถยนต์เบื้องต้นก่อนต่อภาษีได้ ดังนี้
1. การตรวจสภาพโดยใช้มือ: คุณสามารถทำการตรวจสภาพของรถโดยใช้มือของคุณเองได้ เช่น การเช็คแบบกดเบรก, การตรวจสอบความผิดปกติที่ผิวหน้าของรถ, และการตรวจสัญญาณไฟที่ไม่ทำงาน
2. เครื่องมือแบบพกพา: เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างขับขี่ การทำการตรวจสภาพโดยป้อนข้อมูลผ่านเครื่องมือแบบพกพา เช่น เครื่อง Skanner OBD-II (On-Board Diagnostic) ที่ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของระบบได้ เช่น การตรวจสอบค่าประสิทธิภาพของเครื่องยนต์, การตรวจสอบระบบเกียร์, และการตรวจสอบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหลายๆ ส่วนของรถ
3. เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้ในศูนย์บริการ: เมื่อคุณไปที่ศูนย์บริการห้างหุ้นส่วนจำกัด (Authorized Service Center) หรือผู้ผลิตแท้ พวกเขามักจะใช้อุปกรณ์และเครื่องมือพิเศษในการตรวจสภาพของรถ เช่น เครื่อง Diagnostic Scan Tool เป็นต้น