"ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ" หรือ "Vending Machine" เป็นอุปกรณ์ที่ให้บริการขายสินค้าโดยอัตโนมัติ โดยผู้ใช้สามารถทำการซื้อสินค้าได้โดยใส่เงินหรือใช้วิธีการชำระเงินอื่น ๆ เช่น บัตรเครดิตหรือแท็บเล็ต. ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติมักนำมาใช้ในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้บริการในเวลาที่ไม่มีพนักงานอยู่ หรือในสถานที่ที่ต้องการความสะดวกสบาย
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติกลายเป็นแนวทางการซื้อขายสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นในสถาบันการศึกษา สถาบันการแพทย์ หรือแม้กระทั่งในช้อปปิ้งมอลล์
ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเป็นช่องทางการขายผลิตภัณฑ์และบริการที่ไม่ต้องผ่านผู้ขาย เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น เครื่องสแก็น (Scanner) บาร์โค้ด (Barcode) และระบบชำระเงินผ่านการสแก็น QR Code ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพียบพร้อมได้อุปกรณ์หรือสินค้าที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
ไม่เพียงแค่ให้บริการขายสินค้า ตู้จำหน่ายอัตโนมัติยังมีความสามารถในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โดยผู้ใช้สามารถอ่านรีวิวและข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้จากหน้าจอที่ติดอยู่บนตู้ ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทำการเปรียบเทียบและพิจารณาก่อนการซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งลักษณะและประโยชน์ของตู้จำหน่ายสินค้าที่สำคัญ มีดังนี้ :
1. การบริการ 24 ชั่วโมง: ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติสามารถให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน, 7 วันต่อสัปดาห์, 365 วันต่อปี โดยไม่ต้องมีพนักงานอยู่ตลอดเวลา.
2. ความสะดวกสบาย: ผู้ใช้สามารถทำการซื้อสินค้าทันทีโดยไม่ต้องรอคิวหรือรอพนักงานให้บริการ.
3. ความหลากหลายในสินค้า: ตู้จำหน่ายสินค้าสามารถมีสินค้าหลากหลายแบบ, เช่น อาหารกลางวัน, เครื่องดื่ม, ขนม, หรือสินค้าจำนวนจำกัดอื่น ๆ.
4. ประหยัดค่าใช้จ่าย: สำหรับธุรกิจ, การใช้ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติสามารถลดค่าใช้จ่ายในด้านค่าแรงงานและเวลาในการให้บริการ.
5. การจัดสรรสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ: การจัดสรรสินค้าในตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติมักมีระบบที่อัตโนมัติเพื่อให้สินค้าถูกจัดเรียงและบริหารจัดการสต็อก.
6. ความสะอาดและสุขอนามัย: การให้บริการโดยไม่ต้องมีการสัมผัสหรือการรักษาความสะอาดของที่นั่งหรือบริเวณบริเวณในการให้บริการ.
7. การใช้เทคโนโลยี: บางตู้จำหน่ายสินค้าใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย, เช่น ระบบชำระเงินด้วยมือถือหรือการสแกน QR Code.
ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติมีการนำมาใช้ในหลายสถานที่ เช่น โรงแรม, สนามบิน, สถานีรถไฟ, ห้างสรรพสินค้า, ห้องสนทนา, หรือบริเวณสาธารณูปโภคอื่น ๆ.