
การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย บทความนี้จะมาแนะนำเอกสารที่จำเป็นสำหรับการโอนรถ ขั้นตอนการโอน ค่าธรรมเนียม และเคล็ดลับสำคัญเพื่อให้การโอนรถของคุณราบรื่น
1. เอกสารที่จำเป็น:
ใบคำขอโอนและรับโอนรถยนต์: ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์กรมขนส่งทางบก กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต้องเซ็นชื่อ
สำเนาบัตรประชาชน: ของผู้ซื้อและผู้ขาย
เล่มทะเบียนรถยนต์: ตัวจริง
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์: ตัวจริง
ใบสภาตรวจสภาพรถยนต์: กรณีรถมีอายุใช้งานเกิน 7 ปี
หนังสือมอบอำนาจ: กรณีผู้ซื้อหรือผู้ขายไม่สามารถมาดำเนินการด้วยตนเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
ใบเสร็จรับเงิน: ระบุราคาซื้อขาย กรณีซื้อขายแบบมีกรรมสิทธิ์
2. ขั้นตอนการโอนรถ:
เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
นำรถไปตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพรถเอกชนที่ได้รับใบอนุญาต กรณีรถมีอายุใช้งานเกิน 7 ปี
ไปที่สำนักงานขนส่งที่สะดวก ยื่นเอกสาร ชำระค่าธรรมเนียม และรอตรวจสอบเอกสาร
เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและรถ หากถูกต้อง ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องเซ็นชื่อในใบโอนกรรมสิทธิ์
เจ้าหน้าที่จะออกเล่มทะเบียนรถใหม่ให้กับผู้ซื้อ
3. ค่าธรรมเนียม:
ค่าธรรมเนียมการโอน: 25 บาท
ค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพรถ: 50 บาท
อากรแสตมป์: 1% ของราคาซื้อขาย (กรณีซื้อขายแบบมีกรรมสิทธิ์)
ภาษีสรรพสามิต: 3.5% ของราคาซื้อขาย (กรณีซื้อขายแบบมีกรรมสิทธิ์)
4. เคล็ดลับสำคัญ:
ตรวจสอบเอกสารโอนรถให้ครบถ้วนก่อนไปโอน
ตรวจสอบสภาพรถก่อนซื้อ โดยเฉพาะรถมือสอง
ทำสัญญาซื้อขายรถ ระบุรายละเอียดให้ชัดเจน เช่น รุ่นรถ เลขทะเบียน ราคาซื้อขาย สภาพรถ ฯลฯ
เก็บใบเสร็จรับเงินไว้เป็นหลักฐาน
แจ้งโอนกรรมสิทธิ์รถต่อประกันภัยภายใน 30 วัน