IPO คือการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก เป็นการเปิดขายหุ้นของบริษัทเอกชนสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อระดมทุนเพื่อนำไปใช้ในการขยายกิจการ ชำระหนี้ หรือเพื่อกระจายการถือครองหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป

เมื่อบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว หุ้นของบริษัทนั้นจะสามารถซื้อขายได้อย่างเสรีบนกระดานซื้อขาย นักลงทุนทั่วไปสามารถซื้อขายหุ้นของบริษัทนั้นได้ผ่านโบรกเกอร์
ขั้นตอนการ IPO
การ IPO ของบริษัทจะต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
การเตรียมเอกสาร: บริษัทจะต้องเตรียมเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ IPO เช่น หนังสือชี้ชวน งบการเงิน แผนธุรกิจ ฯลฯ เอกสารเหล่านี้จะต้องได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
การกำหนดราคา: บริษัทจะต้องกำหนดราคา IPO ร่วมกับผู้จัดการการเสนอขายหลักทรัพย์ (Underwriter) ราคา IPO จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ผลประกอบการของบริษัท ศักยภาพการเติบโต สภาพตลาด ฯลฯ
การเปิดจอง: บริษัทจะเปิดจองซื้อหุ้น IPO แก่ประชาชนทั่วไป นักลงทุนสามารถจองซื้อหุ้น IPO ผ่านโบรกเกอร์
การจัดสรรหุ้น: เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจอง บริษัทจะทำการจัดสรรหุ้น IPO ให้กับนักลงทุนที่จองซื้อ
การขึ้นทะเบียน: หุ้น IPO ของบริษัทจะขึ้นทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
ประเภทของ IPO
IPO แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
IPO แบบ Fixed Price: บริษัทจะกำหนดราคา IPO ไว้ล่วงหน้า นักลงทุนจะต้องจองซื้อหุ้นในราคาที่กำหนดไว้
IPO แบบ Bookbuild: บริษัทจะกำหนดช่วงราคา IPO ไว้ นักลงทุนจะเสนอราคาซื้อหุ้นภายในช่วงราคาที่กำหนดไว้ บริษัทจะทำการจัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุนที่เสนอราคาสูงที่สุดก่อน
ข้อดีของ IPO
การ IPO มีข้อดีดังนี้
ระดมทุน: บริษัทสามารถระดมทุนจากประชาชนทั่วไปเพื่อนำไปใช้ในการขยายกิจการ ชำระหนี้ หรือเพื่อกระจายการถือครองหุ้น
เพิ่มสภาพคล่อง: หุ้นของบริษัทที่ IPO แล้วสามารถซื้อขายได้อย่างเสรีบนกระดานซื้อขาย นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นของบริษัทนั้นได้อย่างสะดวก
เพิ่มภาพลักษณ์: การ IPO ทำให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป
กระจายความเสี่ยง: การ IPO ช่วยกระจายความเสี่ยงของบริษัท โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินทุนจากแหล่งใดแหล่งหนึ่งเพียงแหล่งเดียว
ความเสี่ยงของ IPO
การ IPO ก็มีความเสี่ยงดังนี้
ราคาหุ้นผันผวน: ราคาหุ้นของบริษัทที่ IPO แล้วอาจผันผวนขึ้นลงตามสภาพตลาด นักลงทุนอาจสูญเสียเงินทุนหากราคาหุ้นของบริษัทลดลง
การถูกควบคุมโดยนักลงทุน: เมื่อบริษัท IPO แล้ว นักลงทุนรายใหญ่ๆ อาจเข้ามาควบคุมบริษัท
ค่าใช้จ่าย: การ IPO มีค่าใช้จ่ายสูง