เทคโนโลยีที่ใช้ในจอคอมพกพา
เทคโนโลยี LED
หลักการทำงาน
การทำงาน: จอ LED เป็นชนิดของจอ LCD ที่ใช้ไฟ LED เป็นแหล่งกำเนิดแสงด้านหลังแทนหลอดฟลูออเรสเซนต์
ประเภท: มีทั้งแบบ Edge-Lit (LED อยู่ที่ขอบของจอ) และ Full-Array (LED กระจายทั่วทั้งหน้าจอ)
ข้อดี
คุณภาพภาพที่ดีขึ้น: สีสันและความคมชัดดีขึ้นเนื่องจากความสามารถในการควบคุมแสงได้ดี
ประหยัดพลังงาน: ใช้พลังงานน้อยกว่าไฟฟลูออเรสเซนต์
ข้อเสีย
ราคา: อาจมีราคาสูงกว่าจอ LCD ปกติ
เทคโนโลยี OLED
หลักการทำงาน
การทำงาน: จอ OLED ใช้สารอินทรีย์ที่ปล่อยแสงเมื่อได้รับกระแสไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้แหล่งกำเนิดแสงด้านหลัง
ลักษณะ: แต่ละพิกเซลเป็นแหล่งกำเนิดแสงที่สามารถควบคุมได้เอง
ข้อดี
การแสดงผลที่เหนือกว่า: สีสันสดใส, ความคมชัดสูง, และอัตราความคมชัดที่สูง
มุมมองกว้าง: การแสดงผลมีคุณภาพดีจากมุมมองที่หลากหลาย
การตอบสนองที่รวดเร็ว: เหมาะสำหรับการแสดงภาพเคลื่อนไหว
ข้อเสีย
ราคาสูง: ราคาของจอ OLED อาจสูงกว่าจอ LCD และ LED
ปัญหาการเบิร์นอิน: มีความเสี่ยงในการเกิดภาพค้าง (burn-in) หากมีการแสดงภาพคงที่เป็นเวลานาน
เทคโนโลยี IPS
หลักการทำงาน
การทำงาน: จอ IPS เป็นประเภทหนึ่งของจอ LCD ที่ใช้การจัดเรียงพิกเซลในแนวขนานเพื่อให้ได้มุมมองที่กว้างและสีที่แม่นยำ
โครงสร้าง: มีการจัดเรียงพิกเซลที่แตกต่างจากจอ TN (Twisted Nematic) เพื่อเพิ่มคุณภาพของการแสดงผล
ข้อดี
มุมมองกว้าง: ภาพไม่บิดเบี้ยวและสีไม่เปลี่ยนเมื่อมองจากมุมมองที่หลากหลาย
การแสดงสีที่แม่นยำ: เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำของสี
ข้อเสีย
ราคาสูงกว่า: โดยทั่วไปจะมีราคาสูงกว่าจอ TN
การตอบสนองช้ากว่า: อาจมีการตอบสนองที่ช้ากว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ
เทคโนโลยี 4K และ 8K
หลักการทำงาน
การทำงาน: เทคโนโลยี 4K และ 8K หมายถึงความละเอียดของจอภาพที่สูง ซึ่ง จอ monitor 4k มีความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล และ จอ monitor 8K มีความละเอียด 7680 x 4320 พิกเซล
การแสดงผล: เพิ่มความละเอียดทำให้ภาพมีความคมชัดและรายละเอียดมากขึ้น
ข้อดี
ความละเอียดสูง: ภาพคมชัดและรายละเอียดดีขึ้น ทำให้เหมาะสำหรับการทำงานกราฟิกหรือการดูสื่อความบันเทิง
การใช้งานที่หลากหลาย: เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการคุณภาพภาพสูง
ข้อเสีย
ความต้องการพลังงานสูง: ต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการแสดงผลภาพความละเอียดสูง
ราคาแพง: มีราคาสูงกว่าจอที่มีความละเอียดต่ำกว่า
เทคโนโลยีสัมผัส (Touchscreen)
หลักการทำงาน
การทำงาน: จอสัมผัสมีเทคโนโลยีการตรวจจับการสัมผัส เช่น Capacitive, Resistive, และ Optical
ประเภท:
Capacitive: ใช้การเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้าเพื่อระบุการสัมผัส
Resistive: ใช้แรงกดเพื่อสัมผัสหน้าจอที่มีชั้นเซ็นเซอร์สองชั้น
Optical: ใช้เซ็นเซอร์แสงเพื่อจับการสัมผัส
ข้อดี
การใช้งานที่สะดวก: ช่วยให้การโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เป็นไปอย่างสะดวก
การควบคุมที่ง่าย: เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการการควบคุมที่รวดเร็วและตรงไปตรงมา
ข้อเสีย
การเสียหายง่าย: จอสัมผัสสามารถเกิดรอยขีดข่วนหรือความเสียหายจากการสัมผัสได้ง่าย